เมื่อ Cloud ได้กลายเป็นเทคโนโลยีหลักที่เหล่าธุรกิจองค์กรต่างๆ เลือกใช้งาน แนวคิดของเทคโนโลยี Multi-Cloud Computing เองก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานบริการ Cloud ที่หลากหลายในแต่ละองค์กร บทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Multi-Cloud ให้มากขึ้นกันครับ

การเช่าใช้ Cloud นั้นง่าย แต่การเช่าใช้โดยไม่วางแผนเลยก็อาจทำให้ปวดหัวได้

วันนี้เราคงไม่ต้องอธิบายกันอีกต่อไปแล้วว่า Cloud นั้นคืออะไร และทุกคนคงทราบกันดีว่า Cloud นั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่มีจุดเด่นด้านความง่ายในการใช้งานและการดูแลรักษา ทำให้หลายๆ องค์กรนั้นมีการเช่าใช้บริการ Cloud ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) เพื่อมาทดแทนการใช้ Server และ Storage ภายใน Data Center ของตนเอง, การเช่าใช้งาน Platform-as-a-Service (PaaS) เพื่อให้การพัฒนา Application ต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น ไปจนถึงการเช่าใช้งาน Software-as-a-Service (SaaS) เพื่อเข้าถึง Application จากผู้ผลิตรายต่างๆ นำมาเสริมให้กับแผนกต่างๆ ของธุรกิจได้อย่างคล่องตัว

เนื่องจากการเช่าใช้งาน Cloud นั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และองค์กรเองไม่ต้องพะวงเรื่องทรัพยากรบุคคลในแผนก IT ที่จะต้องมาดูแลรักษาระบบเหล่านี้มากเท่าการลงทุนจัดซื้อระบบแบบ On-Premises อย่างในอดีต ทำให้ตลาดของบริการ Cloud ในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งด้วยในแง่ของความคุ้มค่าในการลงทุนที่สูงขึ้น และการที่เหล่าผู้ใช้งานในแผนกต่างๆ สามารถเลือกเครื่องมือสำหรับใช้ทำงานด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแผนก IT มากนัก

ในขณะเดียวกัน เหล่าแผนก IT เองก็มีการบริโภคบริการ Cloud มากขึ้นไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเช่าใช้บริการ Cloud เพื่อมาทดแทน Server และ Storage ภายในองค์กรนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างถูกในตอนเริ่มต้น และยังสามารถเพิ่มขยายในอนาคตได้ รวมถึงยังมี Downtime ที่ต่ำ ทำให้ภาระในการดูแลรักษาระบบน้อยลงเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี การเช่าใช้งานบริการ Cloud เป็นจำนวนมากภายในองค์กร ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้ตามมา

ทรัพยากรและข้อมูลขององค์กรกระจัดกระจายไปอยู่ในบริการ Cloud ที่หลากหลาย ยากต่อการดูแลและบริหารจัดการ อีกทั้งยังยากต่อการวิเคราะห์งบประมาณและควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการเช่าใช้บริการ Cloud โดยรวม

เสี่ยงต่อการที่ข้อมูลสำคัญในธุรกิจอาจสูญหายหรือรั่วไหล เนื่องจากการที่ผู้ใช้งานทั่วไปซึ่งตัดสินใจเช่าบริการ Cloud ด้วยตนเองนั้น ขาดทักษะในการจัดการระบบ IT และข้อมูลความลับทางธุรกิจขององค์กร

การใช้งานบริการเฉพาะทางของผู้ให้บริการ Cloud บางรายนั้น อาจทำให้เกิดสภาวะ Vendor Lock-In หรือการที่ไม่สามารถย้ายไปใช้งานบริการ Cloud อื่นที่คุ้มค่ากว่าหรือมีความสามารถมากกว่าได้ด้วยข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยี และทำให้ในระยะยาวการลงทุนนั้นอาจไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร

บางระบบที่ทำงานอยู่บนผู้ให้บริการ Cloud เพียงรายเดียวนั้น ก็อาจเกิด Downtime ได้หากผู้ให้บริการนั้นพบกับประเด็นปัญหาทางเทคนิคบางประการ

เหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้เทคโนโลยี Multi-Cloud Computing ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยตรง เพื่อให้เหล่าองค์กรสามารถใช้งานบริการ Cloud ที่หลากหลายได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด โดยที่ยังคงควบคุมและบริหารจัดการในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม

Multi-Cloud: ทางเลือกสู่อิสรภาพในการเลือกใช้บริการ Cloud สำหรับธุรกิจองค์กร

ปัจจุบันนี้เหล่าผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลายรายเองก็เริ่มนำเสนอโซลูชันทางด้าน Multi-Cloud ในแง่มุมที่แตกต่างกันเพื่อรองรับต่อความต้องการในการบริโภคบริการ Cloud ที่หลากหลาย ดังเช่น

โซลูชันด้าน Multi-Cloud ที่ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการ IaaS จากผู้ผลิตหลายรายได้พร้อมๆ กันและโยกย้ายระบบหรือข้อมูลระหว่างกันได้จากศูนย์กลาง ทำให้สามารถทำ HA/DR ร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการ Cloud หลายรายได้ และย้ายไปใช้ผู้ให้บริการรายที่มีราคาคุ้มค่าที่สุดได้อยู่เสมอ

• โซลูชันด้าน Multi-Cloud ที่เจาะตลาดด้าน Cloud Storage โดยเฉพาะ ทำให้สามารถย้ายข้อมูลระหว่างบริการได้อย่างง่ายดาย
• โซลูชันด้าน Multi-Cloud ที่อาศัยเทคโนโลยี Container เป็นหลัก ตอบโจทย์สำหรับเหล่าผู้พัฒนา Application ให้สามารถเลือกใช้บริการ Cloud ได้อย่างอิสระ เพิ่มความทนทานและเพิ่มขยายประสิทธิภาพได้ตามต้องการ
• โซลูชันด้าน Multi-Cloud ที่เน้นด้านการบริหารจัดการและการควบคุมด้านการทำ Security Compliance ทำให้องค์กรสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเลือกใช้บริการ Cloud จากผู้ให้บริการรายใด ระบบก็จะมีความมั่นคงปลอดภัยและทำงานตรงตามข้อกำหนดต่างๆ อย่างแน่นอน

โดยหลักๆ แล้ว Multi-Cloud นั้นก็คือเทคโนโลยีในการบริหารจัดการบริการ Cloud จากหลากหลายผู้ผลิตในหมวดหมู่ที่มีความเฉพาะเจาะจงหรือมีความหลากหลายได้จากศูนย์กลาง เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ, การติดตามการใช้งานบริการ Cloud ทั้งหมดภายในองค์กร และการควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวม แล้วจึงทำการเพิ่มความสามารถต่างๆ ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ของธุรกิจเข้าไป เรียกได้ว่าทำให้การใช้งานบริการ Cloud จากหลากหลายค่ายนั้นควบคุมง่ายขึ้นก็ไม่ผิดนัก ซึ่งหากสรุปแล้ว ข้อดีของการทำ Multi-Cloud นั้น มีดังนี้

• ทำให้การเช่าใช้บริการ Cloud คุ้มค่าอยู่เสมอ เพราะสามารถย้ายไปเช่าใช้บริการที่มีราคาคุ้มค่าที่สุดได้อยู่ตลอดเวลา
• สามารถเพิ่มขยายระบบได้ง่าย ไม่ติดข้อจำกัดของผู้ให้บริการ Cloud รายใดรายหนึ่ง
• สามารถเพิ่มความทนทานของระบบให้สูงขึ้นได้ ด้วยการสำรองระบบและข้อมูลในผู้ให้บริการ Cloud ร่วมกันหลายราย
• ทำให้มีทางเลือกในการใช้งานเทคโนโลยีที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
• สำหรับองค์กรที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก ก็สามารถเลือกใช้ Region ของผู้ให้บริการ Cloud ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละประเทศให้แตกต่างกันได้
• สามารถเลือกใช้บริการ Cloud ที่ตอบโจทย์ต่อประเด็นทางด้าน Security, Compliance และ Regulation ให้เหมาะสมที่สุดได้
• การติดตามการเช่าใช้งานบริการ Cloud, การประเมินค่าใช้จ่าย และการ Optimize ทรัพยากรบน Cloud สามารถทำได้จากศูนย์กลางทั้งหมด ลดปัญหาการเกิดกรณี Shadow IT ที่มีแผนกต่างๆ เช่าใช้บริการ Cloud โดย IT ไม่ทราบเรื่องลงไปได้

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยี Multi-Cloud นั้นถือว่ามีความครอบคลุมในบริการ Cloud ที่ระดับ IaaS และ PaaS ค่อนข้างมาก แต่สำหรับบริการในหมวด SaaS เองนั้นยังถือว่าค่อนข้างจำกัดอยู่ เพราะ Application ของผู้ผลิตรายต่างๆ นั้นมีการออกแบบสถาปัตยกรรมเบื้องหลังและรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นเทคโนโลยี Multi-Cloud ที่ตอบโจทย์ระบบ SaaS ได้นั้นก็ยังไม่ครอบคลุมการใช้งานในหลากหลายรูปแบบนักในเวลานี้

แน่นอนว่าเหล่าองค์กรเองก็ต้องเลือกใช้เทคโนโลยี Multi-Cloud ให้เหมาะกับความต้องการของตน ซึ่งหากองค์กรเองไม่เคยวางแผนการลงทุนเช่าใช้บริการ Cloud หรือมีข้อกำหนดพื้นฐานใดๆ ร่วมกันในการเลือกใช้บริการ Cloud มาก่อนเลย ถึงแม้เทคโนโลยี Multi-Cloud จะดีแค่ไหนก็อาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมในทุกประเด็น

สำรวจตัวเองก่อน ว่าองค์กรของเราเริ่มมีปัญหากับการใช้งาน Cloud ที่หลากหลายเกินไปหรือยัง

จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเหล่าองค์กรต่างๆ คือการสำรวจตัวเองให้เรียบร้อยก่อน ว่าปัจจุบันนี้เรามีการเช่าใช้บริการ Cloud ใดในงานใดบ้าง เพื่อให้เห็นภาพรวมในการบริโภคบริการ Cloud ภายในองค์กร และทำการจำแนกประเภทของบริการนั้นๆ เพื่อทำการ Optimize ให้เรียบร้อย เช่น การลดการใช้งานบริการที่มีความซ้ำซ้อนกัน, การเปรียบเทียบราคาในบริการหมวดหมู่ที่ใกล้เคียงกันและรวมรวม Feedback การใช้งานที่เกิดขึ้นจริง, การตรวจสอบด้าน Security และ Compliance ว่ามีการละเมิดประเด็นใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ และอื่นๆ ก่อนที่จะทำการพิจารณาว่าองค์กรของเรามาถึงจุดที่ต้องมองหาเทคโนโลยีด้าน Multi-Cloud หรือยัง เพราะในระหว่างการ Optimize นั้น เราอาจลดความซับซ้อนและหลากหลายของบริการต่างๆ ลงไปได้มากทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็อาจต้องแลกมากับกระบวนการจัดระเบียบและย้ายระบบหรือข้อมูลต่างๆ รวมถึงอาจมีแรงต้านทานจากผู้ใช้งานด้วย ซึ่งตรงนี้เองก็เป็นหน้าที่ของเหล่าผู้บริหารและแผนก IT ที่จะต้องวางนโยบายด้านการใช้ Cloud ภายในองค์กรให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน

อ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/Multicloud

https://searchcloudcomputing.techtarget.com/definition/multi-cloud-strategy

https://www.cloudfoundry.org/multi-cloud/

https://www.cloudindustryforum.org/content/five-reasons-why-multi-cloud-infrastructure-future-enterprise-it

https://www.youtube.com/watch?v=t8IiULAPKwo

https://www.youtube.com/watch?v=uhuetPL5PA8

https://www.youtube.com/watch?v=h2vm3eCi5AM

บทความโดย อรุช ถิรวัฒน ผู้ก่อตั้งTechTalkThai