CAT datacom News & promotion

ศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับ CAT datacom

AI อยู่ใกล้ตัว... เมื่อผู้ช่วยอัจฉริยะถูกพัฒนาให้เหนือชั้น

03.10.2019

ในยุคนี้ ผลิตภัณฑ์หลายอย่างทางด้านเทคโนโลยี พยายามจะชูจุดเด่นหรือสร้างภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยด้วยการนำเสนอว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีการผสานเทคโนโลยี AI หรือ Artificial Intelligence ให้มีความอัจฉริยะ ล้ำสมัย ตอบรับกับเทรนด์ของโลกอนาคต มีความฉลาดในการช่วยตัดสินใจหรือทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันหรือลดขั้นตอนซับซ้อนเพื่อให้ประหยัดเวลาในการทำภารกิจ

 

AI ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้น ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้รู้จัก AI อย่างเป็นรูปธรรม ก็คือ ในช่วงปี 1999 โซนี่ ได้แนะนำ Sony AIBO ออกสู่ตลาด ถือเป็น AI+Robot หรือหุ่นยนต์ที่มี AI ในดีไซน์แบบสุนัขแสนน่ารักที่ใคร ๆ ก็อยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนใกล้ชิดภายในบ้าน ต่างจากหุ่นยนต์อื่น ๆ ที่มีดีไซน์ไม่ค่อยเป็นมิตรหรือดูน่ากลัวอย่างในภาพยนตร์ Sci-Fi

 

AIBO ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก AI แบบที่สัมผัสได้ ทำให้หลายคนเข้าใจความหมายของคำว่าปัญญาประดิษฐ์ ซึ่ง AIBO เป็นหุ่นยนต์สุนัขที่แกะกล่องออกมาเลี้ยงในวันแรกก็เหมือนเด็กทารก เมื่อเจ้าของเล่นอย่างมีปฏิสัมพันธ์และสอนอย่างต่อเนื่อง เจ้า AIBO ก็จะค่อย ๆ เรียนรู้คำพูด ลักษณะเสียง จดจำหน้าตาผู้คนในบ้าน มีความฉลาดมากขึ้นทุกวัน มีการโต้ตอบกับคนด้วยเสียงและกิริยาท่าทางที่สื่อถึงอารมณ์ โดยใช้ Input จากกล้องกับไมโครโฟนเสมือนตากับหู และแสดง Output ออกมาด้วยลำโพงกับมอเตอร์เสมือนเสียงกับการเคลื่อนไหวเข้าหาผู้คนหรือทำตามคำสั่งด้วยเสียง ซึ่งความอัจฉริยะและความฉลาดของ AIBO เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากในยุคนั้น

 

 

 

20 ปีผ่านไป มาถึงยุคสมัยนี้ เทคโนโลยี AI จากห้องแลบก็ถูกพัฒนาและผนึกลงในหลายผลิตภัณฑ์ทางด้านเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวเราในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่คุ้นเคยกันมากที่สุดก็คือ Smartphone นั่นเอง

 

สมาร์ทโฟนหลายแบรนด์ดัง นำเสนอว่าซอฟต์แวร์ของกล้องถ่ายภาพมีการผสานกับเทคโนโลยี AI เพื่อให้ถ่ายภาพได้ง่ายและให้ภาพถ่ายที่สวย โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติมหรือมีฝีมือในการถ่ายภาพ ใคร ๆ ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวย เพียงแค่เล็งนิ่ง ๆ แล้วกดชัตเตอร์ เพราะกล้องในสมาร์ทโฟนยุคนี้ มีความละเอียดสูงแซงหน้ากล้องดิจิทัลจริง ๆ ไปแล้ว แค่เปิดกล้องแล้วเล็งวัตถุที่ต้องการถ่าย ซอฟต์แวร์กล้องจะประมวลผลอย่างรวดเร็ว รู้ทันทีว่าเรากำลังถ่ายภาพวิวที่ชายหาด ก็จะเร่งสีท้องฟ้ากับสีน้ำทะเลให้สดใส รู้ว่ากำลังถ่ายภาพดอกไม้หรือต้นไม้ ก็จะโฟกัสดอกไม้พร้อมทั้งเร่งสีสันของดอกไม้กับใบไม้สีเขียวให้สดใสเกินจริงไปอีกระดับ รู้ว่ากำลังถ่ายภาพใบหน้าคน ก็จะโฟกัสตากับโครงหน้า เพิ่มความสว่าง ปรับสีผิวให้เนียนเรียบ ปรับโครงหน้าให้ดูไม่อ้วน เพิ่มตาโตให้เด่นชัด แยก Layer ของวัตถุหรือบุคคลที่จะต้องโฟกัสด้านหน้าให้ชัดกับทำเบลอส่วนอื่นที่เป็นฉากหลังตามระยะที่ไกลออกไป หากถ่ายภาพอาหารก็จะโฟกัสแบบ Close-up พร้อมเร่งสีให้ดูน่าทานยิ่งขึ้น และล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy Note10 ที่มีปากกา S Pen เมื่อผู้ใช้หยิบปากกา S Pen มาเขียนด้วยลายมือแบบหวัด ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย ระบบก็จะแปลงลายมือให้เป็น Text ทันทีอย่างถูกต้องแม่นยำเหลือเชื่อ ไม่ต้องแก้คำผิด ทำให้สามารถคัดลอก Text ไปใช้ได้ทันที ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็น AI ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่มีความฉลาดล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมีผู้ใช้เยอะ ระบบ AI ก็จะยิ่งเรียนรู้ถึงความแตกต่างที่หลากหลายได้ดี

 

Machine Learning ก็เป็นอีกคำที่เริ่มคุ้นเคยกัน เป็นการนำเทคโนโลยี AI มาสร้างและวิเคราะห์จากการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างเช่นบนสมาร์ทโฟน ระบบจะสังเกตการณ์ตลอดเวลาว่าเราใช้แอปพลิเคชั่นตัวใดบ่อยแค่ไหน ใช้งานเป็นระยะเวลาเท่าไร รายงานเป็นสถิติออกมา เชื่อมโยงการทำงานกับระบบ Cache และจัดการพลังงาน นำเอาโค้ดที่เรียกใช้งานบ่อยมาไว้ใน Cache มีการถามผู้ใช้ว่าจะลบบางแอปพลิเคชั่นที่แทบจะไม่เปิดใช้งานเลยเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องหรือไม่ มีการเตือนว่าแอปพลิเคชั่นตัวใดบ้างที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เยอะ แนะนำให้ปิดแอปพลิเคชั่นนั้น ๆ เพื่อไม่ให้ทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา

 

ในรถยนต์รุ่นใหม่ ก็ผสานเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ เช่น รถยนต์ที่มีผู้ขับสลับกันใช้งาน 2 คน โดย 2 คนนี้ มีสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน คนหนึ่งชอบขับแบบสปอร์ต อีกคนขับแบบนุ่มนวล ระบบจะเรียนรู้ถึงพฤติกรรมการขับขี่ สั่งการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่ ในส่วนของความปลอดภัย รถยนต์รุ่นใหม่มีกล้องด้านหน้า ควบคุมรถให้อยู่เลน ดึงพวงมาลัยกลับเมื่อผู้ขับหลับในแล้วรถเบนออกนอกเลน มีระบบช่วยหยุดรถหรือชะลอความเร็วอัตโนมัติเมื่อพบสิ่งกีดขวางหรือรถคันหน้าชะลอความเร็ว มีการวิเคราะห์และเตือนเมื่อพบว่ามีรถหรือคนหรือสัตว์กำลังพุ่งเข้ามาชนจากทิศทางใด มีการแจ้งเตือนบนจอภาพเมื่อกล้องหน้ารถจับภาพป้ายจราจรที่ระบบ AI รู้จัก เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว ป้ายโรงเรียนระวังเด็ก มีการวิเคราะห์เส้นทางร่วมกับแผนที่นำทาง ดึงข้อมูลการจราจร มาร่วมประมวลผลช่วยตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ไปถึงจุดหมายได้เร็วที่สุด

 

บน Social Network ยอดนิยมอย่าง Facebook ก็มีการใช้ AI จดจำใบหน้ามาช่วย Tag เพื่อนหรือภาพตัวเองบน Timeline คนอื่นที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน มีการวิเคราะห์อย่างฉลาดว่าผู้ใช้น่าจะสนใจเรื่องอะไร คาดว่าจะชื่นชอบหรือติดตามเพจใด คิดว่าเพื่อนคนใดที่เราน่าจะรู้จักกันแต่ยังไม่ได้เพิ่มเป็นเพื่อน

 

 

Chatbot ก็ถือเป็น AI ที่น่าจับตามอง ที่ช่วยให้ผู้รับบริการ ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วเมื่อสอบถามเข้ามาด้วยการ Chat ระบบจะวิเคราะห์คำถามและหาความเชื่อมโยงกับคำตอบที่คิดว่าน่าจะถูกต้องที่สุดสำหรับคำถามนั้น ช่วยลดการจ้างพนักงาน Call Center และลูกค้าก็พึงพอใจเพราะไม่ต้องรอคอยการรับสายที่เนิ่นนาน ทุกคำถามจะถูกเก็บเป็นสถิติที่น่าสนใจ สามารถนำข้อมูลไปต่อยอดทางธุรกิจได้อีก

 

กล้องวงจรปิดในโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อผสานกับ AI ระบบก็จะรู้ทันทีว่าคนในภาพเป็นใครในฐานข้อมูล HR เข้าออกงานเวลาใดบ้าง มีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ มีการตีกรอบสี่เหลี่ยมใบหน้าติดตามบนจอภาพตลอดเวลา หากเป็นกล้องวงจรปิดในห้างร้าน ก็สามารถประยุกต์ให้นับจำนวนผู้คนเข้าห้างร้าน เก็บข้อมูลว่าจุดใดที่นิยมเดินเข้าไป เมื่อเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลลูกค้า ก็จะทราบว่าลูกค้าชื่นชอบสินค้าอะไร เดินไปจุดไหนเป็นประจำ แล้วนำเสนอสินค้าที่คาดว่าลูกค้าน่าจะชื่นชอบ หรือกล้องวงจรปิดสำหรับตำรวจจราจร ก็สามารถนำ AI มาใช้ติดตามรถที่น่าสงสัยจากป้ายทะเบียน ตรวจจับรถที่ทำผิดกฎจราจร แล้วส่งใบชำระค่าปรับไปที่บ้านทันทีโดยดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลกรมการขนส่งทางบก หรือใช้ AI มาช่วยควบคุมระยะเวลาการเปิดสัญญาณไฟจราจรตามปริมาณรถยนต์ในทางแยกก็ได้

 

ด้วยความฉลาดล้ำของ AI จึงถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบความผิดปกติของ Data บน Network และตรวจจับการโจมตีทางไซเบอร์ได้ด้วย ตรวจจับ Action บางอย่างที่เข้าข่ายว่าเป็นการกระทำของไวรัสและมัลแวร์อันตราย ทั้งภายในเครือข่ายขององค์กรและบน Cloud อย่างเช่น มีมัลแวร์แฝงตัวเงียบ ๆ อยู่ใน Client หนึ่งภายในเครือข่าย แล้วจู่ ๆ ก็มีการเข้ารหัสไฟล์ข้อมูล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไฟล์จำนวนมากอย่างรวดเร็ว หรือมีการแพร่กระจายสู่ Client อื่นในเครือข่ายอย่างรวดเร็ว AI ก็สามารถตรวจพบความผิดปกตินี้ได้ และตัดสินใจทำบางอย่างโดยอัตโนมัติพร้อมทั้งแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลระบบทันที เพื่อระงับการแพร่กระจายหรือป้องกันความเสียหายจากการถูกโจมตีจากไวรัส มัลแวร์ รวมทั้ง Hacker ที่ควบคุมจากระยะไกลนอกเครือข่ายองค์กร

 


 

เครื่องใช้ไฟฟ้ารอบตัวเรา รถยนต์ ซอฟต์แวร์ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบโฆษณา ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่โต้ตอบกับผู้ใช้ได้เสมือนคนจริง ๆ ระบบ Logistics และระบบต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ ล้วนนำเอาความอัจฉริยะของเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งทางธุรกิจและเพื่ออำนวยความสะดวก ตอบโจทย์และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด AI ยังคงถูกพัฒนาให้ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเรียนรู้ให้รู้จักสิ่งใหม่ ๆ ได้เอง วิเคราะห์ความน่าจะเป็นได้ ตัดสินใจในเรื่องซับซ้อนและคาดการณ์อนาคตได้ ไม่ใช่เหมือนหุ่นยนต์ที่ทำงานรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ เป็น Routine ตามที่โปรแกรมกำหนดไว้อีกต่อไป

 

เหตุผลที่ AI ถูกพัฒนาได้รวดเร็วและอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น เป็นเพราะว่าเทคโนโลยีการสื่อสารที่เร็วยิ่งยวด เข้าถึงผู้ใช้ทุกคนทุกครัวเรือนและทุกองค์กรแล้ว ข้อมูลบางอย่าง AI จะส่งไปประมวลผลที่ศูนย์กลางแล้วส่งกลับมาเพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องรอคอย บวกกับการนำข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT และอินเทอร์เน็ตมารวมกันเป็น Big Data ที่สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ความน่าจะเป็นได้อย่างแม่นยำ โลกอนาคตจะขับเคลื่อนด้วย Data และ AI อย่างแท้จริง ใครที่มีทั้ง Data และ AI อยู่ในมือ ก็จะได้เปรียบทางธุรกิจ เมื่อนำมาใช้อย่างฉลาด

 

 

  โดย  วรพล ลิ่มศิริวงศ์ นักข่าวและผู้ผลิตคอนเท้นท์ สายเทคโนโลยีไอที สื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา